ประวัติหมู่บ้านหนองขุมเงิน ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอโพธิ์ชัย
จังหวัดร้อยเอ็ด
บ้านหนองขุมเงิน
มีถิ่นกำเนิดที่บ้านโพธิ์ชัย ตำบลขามเปี้ย อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
สมัยนั้นมีนายพิมพ์ ชูศรีทอง และนายทอง ชูศรีทอง มาบุกรุกแผ้วถางป่าตามไร่นา
เนื่องจากที่นาอยู่ไกลจากหมู่บ้านตนมาก จึงได้มาอยู่ตามหัวไร่ปลายนา เรียกว่า
มาแก่นคูณ ปี พ.ศ.2495 มีผู้อพยพมากันหลายครอบครัวเลยตั้งชื่อว่า บ้านโนนชัยศรี
แต่ก็ไม่เหมาะสมและเปลี่ยนตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ ชื่อว่าบ้านหนองขุมเงิน
สาเหตุเกิดจากมีคนพบ ขุมเงินขุมทอง จึงได้ชื่อบ้านหนองขุมเงินจนปัจจุบัน
ผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ นายทอง
ชูศรีทอง ปี พ.ศ. 2509
เปลี่ยนแปลงการปกครองจากตำบลขามเปี้ย เป็นตำบลคำพอุง มีนายบุญเลื่อน
ขันไพบูลย์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน นายบุญหลาย ภานุเวช เป็นผู้ใหญ่บ้าน จนถึงปี พ.ศ. 2522
จนกระทั่งนายสนิท โพธิ์ชัยสิงห์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ได้แยกจากตำบลคำพอุง เป็นตำบลโพธิ์ศรี ปี พ.ศ. 2535 มีนายอำนาจ
นิละดาห์ เป็นผู้ใหญ่บ้าน
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง
หมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข
หมู่บ้านหนองขุมเงิน หมู่ที่ 8 มีการดำเนินชีวิตกิจกรรมในหมู่บ้านโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ
ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว
มีกิจกรรมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแต่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า
มีการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมด้วยการลงทุนทางสังคมที่มีโดยคำนึงถึงหลักคุณธรรม
จารีตประเพณีที่ดี ดังนี้
1. กิจกรรมด้านการลดรายจ่าย
1. กิจกรรมด้านการลดรายจ่าย
ชุมชนบ้านหนองขุมเงินหมู่ที่ 8 ใช้กิจกรรมดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความซื่อสัตย์
สุจริต ช่วยเหลือตนเองมาโดยตลอดด้วยความอุตสาหะวิริยะ
ทุกครัวเรือนได้ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและปฏิบัติตนในกรอบขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม
ชุมชนได้ประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้ทุกครัวเรือนได้ตระหนักและปลูกจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อครัวเรือนและชุมชน
โดยใช้กรอบขนบธรรมเนียมประเพณี กฎ กติกาของชุมชนมากำหนดใช้ในชุมชน
ทำให้ชุมชนเกิดความสงบสุข ไม่มีปัญหาทะเลาะวิวาท
ในปี 2549-2550 สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้นทำให้ทุกครัวเรือนต้องซื้อสินค้าแพงขึ้นเป็นมูลเหตุที่ทำให้ครัวเรือนหันมาพึ่งตัวเองมากขึ้น
โดยการเลี้ยงสัตว์ อาทิ ไก่ เป็ด
และปลูกผักไว้กินเองเพื่อเป็นการลดต้นทุนในครัวเรือน
1.1 การปลูกพืชผักสวนครัว
รั้วกินได้
บ้านหนองขุมเงิน
หมู่ที่ 8 เป็นหมู่บ้านที่มีการปลูกพืชผักสวนครัวไว้บริโภคในครัวเรือนทุกครัวเรือน
ได้แก่ ผักบุ้ง ผักกาด ผักชี โหระพา พริก ตะไคร้ ฯลฯ
ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการการบริโภคได้ในระยะหนึ่ง
1.2 มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน
โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอำเภอโพธิ์ชัยให้การสนับสนุน
สมุดการทำบัญชีครัวเรือนทุกครัวเรือน
ทำให้ทราบและเตือนตนเองไว้ว่าอะไรควรจ่ายอะไรที่ไม่ควรจ่าย
ส่วนใหญ่การการใช้จ่ายจะใช้จ่ายเป็นต้นทุนการผลิตในการทำนาและการซื้อของใช้ส่วนตัว
จึงทำโครงการปรากฏอยู่ในแผนชุมชน
1.3 การเลี้ยงปลาในบ่อซีเมนต์
บ้านหนองขุมเงิน
หมู่ที่ 8 มีการทำบ่อเลี้ยงปลาเพื่อเป็นอาหารในครัวเรือนเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนโดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะเข้าร่วมโครงการบ่อดินชาวบ้านที่รัฐจะมาช่วยขุดบ่อเลี้ยงปลาปลูกผักสวนครัวเพื่อเดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
โดยให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีเงินสมทบคนละ 500.- บาท
จึงทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งขึ้น
2. กิจกรรมเพิ่มรายได้
2.1 กลุ่มทอผ้า
สตรีชาวบ้านหนองขุมเงิน
หมู่ที่ 8 ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาเรื่องการทอผ้าจากบรรพบุรุษ
และสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตของชุมชนได้กลุ่มได้รวมกันจัดตั้งกลุ่มด้วยความสนใจสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโพธิ์ชัย
ได้รับสนับสนุนด้านความรู้ การจัดระบบกลุ่ม แก่กลุ่มทอผ้า ปัจจุบันมีสมาชิก 20 คน และสมาชิกกลุ่ม ร่วมระดมทุนเพิ่มเติมคนละ 500 บาท ทำให้มีทุนดำเนินการ จำนวน 10,000 บาท
ในการทอผ้า ผ้าขาวม้า และผ้าห่มกลุ่มทอผ้าดำเนินอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม
มีการบริหารจัดการกลุ่มชัดเจนจึงได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจาก
องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ชัยอย่างต่อเนื่องทุกปีงบประมาณตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันด้วยเงินทุนสนับสนุน 20,000 บาท
3. กิจกรรมการประหยัด
3.1 กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านมีเงินเก็บออม
และเป็นเงินทุนสำหรับตัวเองในยามจำเป็น
นอกจากนี้บังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิกที่ต้องเก็บออมเงินโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปฝากที่ธนาคาร
สำนักงานพัฒนาชุมชน อำเภอโพธิ์ จึงได้นำหลักการ แนวคิด
แนวทางการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเผยแพร่แก่ผู้สนใจชาวบ้านหนองขุมเงิน
และร่วมการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตตามนโยบายของกรมการพัฒนาชุมชนในปี 2539
4. ด้านการเรียนรู้
4.1 ดำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
บ้านหนองขุมเงิน
หมู่ที่ 8 มีลักษณะการดำรงชีวิตที่ช่วยเหลือเกื้อกูล ถ้อยทีถ้อยอาศัย
มีความสมานสามัคคีกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมีลักษณะของความมีเหตุมีผล
ความพอประมาน และมีภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างเช่น
การที่ชาวบ้านยังคงรักษาประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวกันจนเสร็จทั้งหมู่บ้าน
นอกนี้ยังมีการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เช่น ประเพณีสงกรานต์
การรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้เฒ่าผู้แก่ และกลุ่มอาชีพที่สามารถสร้างอาชีพ
รายได้ให้แก่สมาชิกในชุมชนได้ดี
4.2 หมู่บ้านปลอดสารเสพติด
ชาวบ้านทุกครัวเรือนตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติด
ทีสามารถเข้ามาทำลายชีวิตของทุกคนได้ทุกเวลาถ้าหากสังคมอ่อนแอและยอมเป็นทาสยาเสพติด
ดั้งนั้น แกนนำหมู่บ้านทุกคน สมาชิกทุกครัวเรือนจึงให้ความสำคัญกับการป้องกัน
ปราบปรามยาเสพติด ด้วยการสร้างรั้วบ้านที่แข็งแรง
โดยการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านพาภัยของยาเสพติดแก่ชุมชนเป็นประจำ
เยาวชนในหมู่บ้านร่วมกิจกรรมลูกคูณบ้าน
หลานคูณเมืองเป็นกิจกรรมที่มีส่วนในการกล่อมเกลาจิตใจเยาวชนไม่ให้ก้าวร้าว
และได้ขยายผลสู่เยาวชนคนอื่นๆในหมู่บ้านทำให้หมู่บ้านไม่มีปัญหาเยาวชนชกต่อยทะเลาะวิวาทกันและหมู่บ้านอื่น
ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนทั่วไป
4.3 เป็นหมู่บ้านแผ่นดินธรรม
แผ่นดินทอง ได้แก่
- มีความเอื้ออาทร พึ่งพาอาศัย
ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในกิจกรรมต่างๆในหมู่บ้าน
- มีหมู่บ้านปลอดยาเสพติด
- มีการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และปฏิบัติศาสนกิจอยู่เสมอ
- มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
- มีการส่งเสริมกิจกรรมประกอบอาชีพแก่สมาชิกในชุมชน
- มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในหมู่บ้านอยู่เสมอ
4.4 ศูนย์การเรียนรู้ด้านสุขภาพอนามัย
มีการส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ทุกช่วงตอนเย็นจะมีการออกกำลังกายเต้นแอโรบิกเพื่อสุขภาพ
5. ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ชุมชนหนองขุมเงิน หมู่ที่ 8 ได้ตระหนักร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชนเสมอมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมกันพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ในหมุ่บ้านชุมชนให้เป็นหมู่บ้านน่าอยู่มีความสะอาดและความสวยงามอยู่เสมอมีการบำรุงดินด้วยปุ๋ยชีวภาพ
มีการเฝ้าระวังไฟป่า มีการไถกลบตอซังข้าว
6. ด้านความเอื้ออาทร
บ้านหนองขุมเงิน หมู่ที่ 8 มีกิจกรรมภายในหมู่บ้านที่แสดงว่าเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
โดยเฉาะ คำนึงถึงสวัสดิการของผู้ด้อยโอกาสเป็นสำคัญ เช่น
6.1 มีกลุ่มฌาปนกิจหมู่บ้าน
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของสมาชิกในหมู่บ้านเมื่อเสียชีวิตครัวเรือนละ 20 บาท ทุกครัวเรือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น